การตรวจสอบหม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูงนั้นจะต้องทำการตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์และส่วนประกอบของหม้อแปลงไฟฟ้านั้นยังทำงานได้อย่างสมบูรณ์ซึ่งวันนี้เรามีข้อแนะนำรายการตรวจสอบหม้อแปลงไฟฟ้ามาให้ดูว่าควรตรวจสอบอะไรบ้าง
1) การตรวจสอบปลอกนําสาย (Bushing)
ก. มีรอยแตกเสียหายหรือไม่มีฝุ่นหรือคราบเกลือจับที่ผิวหรือไม่ ทําความสะอาดผิด (รายปี)
2) การตรวจสอบสายนําออก
ก. ขั้วต่อสายไฟร้อนเกินไปหรือไม่
ข. ส่วนต่อของสายเมนและสายนําออกจําขั้วแรงดันไฟต่ำรอนเกินไปหรือไม่ ดูได้จากรอยไหม้หรือ การเปลี่ยนสี
3) การตรวจสอบน้ํามันฉนวน
ก. ปริมาณน้ํามันเพียงพอเหมาะหรือไม่ ดูได้จากขีดบอกปริมาณน้ํามัน
ข. น้ํามันมีความคงทนต่อแรงดันไฟดีหรือไม่ (รายปี)
ค. ระดับ pH ของน้ํามันดีหรือไม่ (รายปี)
4) การทดสอบความต้านทานฉนวน
ก. วัดค่าความต้านทานของฉนวน (รายปี)
ระหว่างกราวนด์กับด้านปฐมภูมิและทุติยภูมิ 30 MΩ
ระหว่างกราวนด์กับด้านทุติยภูมิ 5 MΩ ที่ 55°C
5) การตรวจสอบสายดิน
ก. สายดินขาด หรือหลุดหรือไม่
ข. ขั้วต่อสายดินหลวมหรือไม่
6) การตรวจสอบลักษณะการติดตั้ง
ก. ลักษณะการติดตั้งดีหรือไม่ มีร่องรอยเสียหายหรืออยู่ในสภาพอันตรายหรือไม่
7) การตรวจสอบสภาพภายนอก
ก. ตัวถังมีรอยบิดเบี้ยวหรือเกิดสนิมเสียหายหรือไม่
ข. ตัวถังร้อนเกินไปหรือไม่
ค. น้ํามันรั่วหรือไม่
ง. มีเสียงหรือกลิ่นผิดปกติหรือไม่
จ. สารดูดความชื้นเปลี่ยนสีไปหรือไม่
8) การตรวจสอบอุณหภูมิ
ก. ในกรณีที่ไม่มีเทอร์โมมิเตอร์ให้ใช้มือแตะวัดความร้อนดูหลังจากที่ได้ทดสอบให้แน่ใจว่าไม่มี กระแสแล้ว หรือถ้ามีแผ่นเทปบอกอุณหภูมิติดอยู่อาจดูได้จากสีของแผ่นเทปที่เปลี่ยนไป
ข. ในกรณีจําเป็น อาจวัดอุณหภูมิดูในขณะที่หม้อแปลงมีโหลดเต็มที่
ค. ถ้าหม้อแปลงร้อนเป็นบางส่วน แสดงว่าภายในผิดปกติให้ตรวจสอบดู
9) วิธีตรวจสอบ Static capacity
ก. การตรวจสอบปลอกนําสายมีรอยแตกเสียหายหรือไม่ มีฝุ่นหรือคราบเกลือจับที่ผิวหรือไม่ทําความ สะอาดผิวปลอกนําสาย (รายปี)
คําอธิบาย
ในการทําความสะอาดปลอกนําสาย ห้ามใช้ใบมีดขูดรอยสกปรกที่แข็งจับตัวบนผิวของปลอกนําสาย ให้ใช้ ผ้าเช็ดอย่างบรรจง
ก. การทดสอบความต้านทานของฉนวน วัดความต้านทานของฉนวนระหว่างขั้วต่อต่างๆ กับตัวถัง (กราวนด์) (รายปี)
– ความต้านทานตามผิวของปลอกนําสายมีผลต่อค่าความต้านทานของฉนวนระหว่างขั้วต่อต่างๆ กับ ตัวถัง
– ใช้วัดด้วยเมกเกอร์ขนาด 1,000 V
ข. การทดสอบความต้านทานต่อลงดิน
– วัดค่าความต้านทานต่อลงดิน (รายปี)
– การต่อลงดินชนิดที่ 1
ค. การตรวจสอบสภาพภายนอก (ตัวถัง)
– ตัวถังบิดเบี้ยวเสียหาย หรอเป็นสนิมหรือไม่
– ตัวถังป่องออกมาผิดปกติหรือไม่
– ตัวถังร้อนเกินไปหรือไม่
– น้ํามันรั่วหรือไม่
– มีเสียง หรอกลิ่นผิดปกติหรือไม่
– ขั้วต่อสายร้อนเกินไปหรือไม่
– สายดินขาดหรือหลุดหรือไม่
– ขั้วสายดินหลวมเกินไปหรือไม่
คําอธิบาย
– สภาพที่ตัวถังร้อนเกิน ดูได้จากรอยบิดเบี้ยวหรือสีที่เปลี่ยนไป
– ถ้าผิวของตัวถังมีน้ํามันซึมออกมานิดหน่อยไม่เป็นไรแต่ถ้ารั่วให้รีบจัดการเปลี่ยนเสีย
– สภาพที่ขั้วต่อร้อนเกิน ดูได้จากรอยไหม้หรือสีที่เปลี่ยนไป
– ใช้มือลองจับสายดินดูหากว่าโยกหลวมเกินไปให้ขันขั้วต่อสายดินให้แน่น
10) วิธีตรวจสอบ สถานีจ่ายไฟย่อย
ก. การตรวจสอบตู้โลหะ
– เป็นสนิมหรือเสียหายหรือไม่
– ประตูเปิดปิดได้เหมือนปกติหรือไม่
– มีรอยน้ำซึมที่พื้นตู้หรือไม่
– มีรอยหนูเข้าไปทํารังหรือไม่
– มีรอยฝนรั่วหรือไม่
– อุณหภูมิในตู้ร้อนเกินไปหรือไม่
– รอบๆ ตู้โลหะเป็นระเบียบเรียบร้อย หรือไม่
คําอธิบาย
– ถ้าตู้โลหะเกิดเสียหาย ผุเปื่อย สีลอก น้ําฝน หรือฝุ่นเข้าไป อาจจะเป็นสาเหตุให้เกิด ความผิดปกติได้
– ประตูอาจถูกเปิดออกโดยลมฝน ทําให้น้ำเข้าไปข้างในได้เมื่อมีร่องรอยที่หนูเข้ามา ต้องปิดรูที่หนูเข้ามาเสียหาไม่แล้วอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้
– ถ้าหาก Cubicle ตั้งอยู่ที่โล่งแจ้ง ถูกแดดส่องอยู่ตลอดเวลาควรระวังอุณหภูมิภายในตู้
11) การตรวจสอบตู้รับไฟ และตู้จ่ายไฟ
ก. ไฟสัญญาณ (Pilot lamp) ของอุปกรณ์รับไฟและอุปกรณ์จ่ายไฟติดหรือไม่
– ไฟสัญญาณของ OCB ติดหรือไม่
– โวลต์มิเตอร์ปกติดีหรือไม่
– แอมมิเตอร์ปกติดีหรือไม่
– สวิตซ์สับเปลี่ยนของอุปกรณ์วัดปกติดีหรือไม่
– ขั้วต่อสายไฟของตู้จ่ายไฟหลวมหรือไม่
ข. การตรวจสอบเครื่องป้องกัน
– รั้วป้องกันเรียบร้อยหรือไม่
– แผ่นป้าย “ห้ามเข้า” และ “อันตราย” แตกเสียหายหรือไม่
– มีเครื่องดับเพลิงอยู่ในบริเวณใกล้ๆ หรือไม่
– ดูว่ารั้วกั้นผุเปื่อย หรือเป็นสนิมหรือไม่
ค. การตรวจสอบสวิตซ์เปิดปิดพร้อมฟิวส์ทางด้านโหลด
– ลูกถ้วยที่รองรับมีรอยแตกหรือบิ่นหรือไม่
– มีฝุ่น หรือคราบเกลือมาจับที่ผิวหรือไม่
– ส่วนสัมผัสของขั้วใบมีดและขั้วรองรับใบมีดมีรอย
ง. เสียหายหรือร้อนเกินไปหรือไม่
– การสับสวิตซ์เป็นไปอย่างเรียบร้อยหรือไม่
– ตะปูเกลียวตามขั้วต่อต่างๆ หลวมหรือไม่
– ฟิวส์ลิงค์มีรอยแตกเสียหาย หรือเปลี่ยนสีหรือไม่
จ. การตรวจสอบหม้อแปลงแรงดันไฟสูง
– หม้อแปลงทํางานเกินกําลังหรือไม่
– ตัวถังร้อนเกินไปหรือไม่
– มีเสียงหรือกลิ่นผิดปกติหรือไม่
– น้ํามันรั่วหรือไม่
– ปลอกนําสายเสียหาย สกปรกหรือไม่
– มีฝุ่นหรือคราบเกลือจับที่ผิวของปลอกนําสายหรือไม่
– ตะปูเกลียวที่ยึดหลวมหรือไม่
ฉ. การตรวจสอบ Static Capacitor
– ตัวถังป่องออกมาผิดปกติหรือไม่
– ตัวถังร้อนเกินไปหรือไม่
– น้ํามันรั่วหรือไม่
– มีเสียงหรือกลิ่นผิดปกติหรือไม่
– ขั้วต่อสายไฟร้อนเกินไปหรือไม่
– ปลอกนําสายมีรอยแตกเสียหาย หรือสกปรกหรือไม่
– มีฝุ่นหรือคราบเกลือจับที่ผิวของปลอกนําสายหรือไม่
ช. หัวข้อการทดสอบสําหรับการตรวจสอบประจํา
– การทดสอบความต้านทานของฉนวน
– การทดสอบความต้านทานต่อลงดิน
– การทดสอบความคงทนต่อแรงดันไฟและการวัดระดับ pH (ในกรณีจําเป็น) ของน้ํามันฉนวนใน หม้อแปลง
สรุป
หม้อแปลงไฟฟ้าถือเป็นหัวใจในการรับและส่งระบบไฟฟ้าไปยังส่วนต่างๆซึ่งหากเราให้ความสำคัญในการบำรุงรักษาการหม้อแปลงไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์อาจช่วยให้ค่าไฟของเราลดลงช่วยประหยัดค่าใช่จ่ายในการดำเนินธุรกิจ และการตรวจสอบหม้อแปลงไฟฟ้าจะต้องตรวจสอบโดยผู้ชำนาญเฉพาะทางที่มีความรู้ในด้านนี้จริงๆเพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างตรงจุด